The Ghost Bride 2020 เจ้าสาวเซ่นศพ

The Ghost Bride 2020 เจ้าสาวเซ่นศพ

ซับไทย ซีรีย์จีน | ซีรีย์ซับไทย | ดูซีรีย์ออนไลน์

The Ghost Bride 2020 เจ้าสาวเซ่นศพ ดูซีรีย์จีน

The Ghost Bride 2020 เจ้าสาวเซ่นศพ ดูซีรีย์จีน ซีรีส์ร่วมสร้างของไต้หวัน-มาเลเซีย ซึ่งเป็น Original by Netflix 6 ตอนจบ เรื่องนี้เอาโครงเรื่องมาจากนิยายขายดีของ New York Times ในชื่อเรื่องเดียวกัน The Ghost Bride แต่งโดย Yangsze Choo เป็นนักเขียนชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ว่าด้วยเรื่อง การแต่งงานกับคนตาย ซึ่งผู้เขียนเขาก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องเล่าที่พี่เลี้ยงเคยเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับประเพณีโบราณของจีน เรื่องแต่งงานของบ่าวสาวผู้ล่วงลับไปแล้วทั้งคู่ หรือแม้กระทั่งการแต่งงานของคนเป็นกับคนตาย ซึ่งมีอยู่จริงนะคะ แต่ก็เป็นส่วนน้อยเพราะเท่ากับว่า เจ้าสาวคนนั้นจะต้องรับสภาพหม้ายไปตลอดชีวิต

ซึ่งประเพณีนี้เป็นเรื่องที่เล่ากันในสังคมชาวจีนที่อพยพออกมาเสี่ยงโชคในดินแดนอื่น ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง อย่างที่เรามีคนไทยเชื้อสายจีน คนสหรัฐฯ เชื้อสายจีน ฯลฯ เรียกว่าขึ้นฝั่งที่ไหนสังคมชาวจีนก็จะหอบเอาประเพณีเก่า ๆ ติดตัวมา ไม่ใช่เรื่องเล่าที่จะได้ยินจากจีนแผ่นดินใหญ่หรอกค่ะ ในเมื่อนิยายเป็นแนว Historical Fantasy ซีรีส์ก็ยังยึดแนวทางนั้นอย่างเหนียวแน่น

The Ghost Bride 2020 เจ้าสาวเซ่นศพ
ตัวอย่างหนัง

เรื่องย่อ The Ghost Bride

ในมะละกาในปี 1890 หลี่หลานพบว่าตัวเองอยู่ในชีวิตหลังความตายและติดอยู่ในปริศนาที่เชื่อมโยงกับลูกชายผู้ชั่วร้ายผู้ล่วงลับของครอบครัวที่ร่ำรวย ย้อนไปในปีค.ศ. 1890 ที่เมืองมะละกา สมัยที่ยังเป็นเมืองอาณานิคมของอังกฤษอยู่ “ลี่หลัน” ลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านสกุล “ฟาน” ถูกทาบทามให้แต่งงานเข้าบ้านตระกูล “หลิน” แต่ไม่ใช่กับ “หลิน เทียนไป๋” เพื่อสนิทของ ลี่หลัน ตั้งแต่เด็กๆ แต่คำขอนั้นกลับเป็นการทาบทามให้กับ “หลิน เทียนชิง” ลูกชายคนโตของตระกูลที่เพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นาน

รีวิวThe Ghost Bride 2020 เจ้าสาวเซ่นศพ

แน่นอนว่าคำขอนี้ปกติคงไม่มีใครยอมรับให้คนในตระกูลตนเองไปแต่งงานกับผี แต่ด้วยเหตุการณ์หลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยของ “คุณฟาน” พ่อของลี่หลัน และการตายอย่างมีเงื่อนงำของ หลิน เทียนชิง ทำให้ ลี่หลัน ต้องกลายมาเป็นนักสืบจำเป็น แถมยังมีการมาของ “เอ้อ หลาง” ฑูตสวรรค์ที่ถูกส่งมาสืบความไม่ชอบมาพากลของการตายของ เทียนชิง ในครั้งนี้เช่นกัน ฆาตกรตัวจริงที่ฆ่า เทียนชิง จะเป็นใคร? ลี่หลัน ต้องแต่งงานกับผีหรือไม่ในที่สุด?

The ghost bride-เจ้าสาวเซ่นศพ เล่าเรื่องราวในยุค 1890 ที่เมืองมะละกา ลี่หลัน (Huang Pei jia ) หญิงสาวชาวจีนเชื้อสายมาเลเซีย ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูล ฟาน ถูกทาบทามจากคุณนายตระกูล หลิน ให้แต่งงานกับ เทียนชิง (Kuang Tian) ลูกชายคนโตของเธอ แต่…เขาคนนั้นเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 1 เดือนก่อน แน่นอนว่าคำขอนี้ทำเอาตะลึงและไม่อาจยอมรับได้ แต่เหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในบ้านลามมาถึงอาการป่วยที่ราวกับคนตายของพ่อและการตายอย่างมีเงื่อนงำของเทียนชิง

ทำให้ ลี่หลัน ทำข้อตกลงกับ ผีเทียนชิง ว่าเธอจะช่วยหาฆาตกรที่ฆ่าเทียนชิงให้ “อยากรู้ป่ะล่ะว่าใครฆ่านาย” (แต่เท่าที่ดู ผีก็ไม่ค่อยจะอยากรู้สักเท่าไหร่) แลกกับการที่เขาต้องช่วยพ่อของเธอให้วิญญาณของพ่อเธอกลับเข้าร่างได้ ลี่หลันก็เลยต้องกลายเป็นนักสืบโดยไปขอความช่วยเหลือจาก เทียนไป่ (Ludi Lin) น้องชายของ ผีเทียนชิง ซึ่งเป็นอดีตรักวัยเยาว์ของเธอเอง แถมยังมี เอ้อหลาง (Wu Kang jen) ทูตสวรรค์ที่ถูกส่งมาสืบความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับ การตายของเทียนชิงด้วยเหมือนกันคอยช่วยเหลือ

คือ จริง ๆ แล้วคนตายไปแล้วพอลงไปปรโลก ก็ต้องไปสู่ดินแดนแห่งคำพิพากษา เพื่อตัดสินถูก-ผิด ใครไปเกิดใหม่ใครรับกรรมในนรก แต่อีตาเทียนชิงนี่บ้านรวย แม่เผาเงินเผาทองส่งไปให้ทุกวัน นางก็ไม่ยอมไปจ้ะ ติดสินบนเจ้าหน้าที่และยังคงมีชีวิตสุขสบายอยู่ในปรโลก ดินแดนที่เป็นจุดพักของวิญญาณก่อนจะไปรับคำพิพากษา เรียกว่ากินหรูอยู่สบาย จะเอาอะไรก็ไปเข้าฝันแม่ให้ส่งมาให้ แม้กระทั่งเจ้าสาว

ซีรีส์มันมี 6 ตอนก็จบแล้ว เล่ามากกว่านี้ก็จะกินเนื้อหาไปครึ่งเรื่องได้ง่าย ๆ เอาเป็นว่าหลังจากที่ ลี่หลัน กำลังสืบหาสาเหตุการตายของ ผีเทียนชิง อยู่นั้น ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องไปอยู่กับผี และมีข้อตกลงบางอย่างกัน (ไปแค่วิญญาณนะ ร่างนี่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงที่บ้าน)หลังจากนี้เรื่องราวก็ดำเนินต่อไป มีการทำภารกิจสืบหาฆาตรกรเพื่อจัดการกับเทียนชิง มีการเสียสละ มีเรื่องราวความรัก

กับสิ่งที่ผิดคาดจากหน้าหนัง เห็นตัวอย่างครั้งแรกถึงกับคิดว่ามันต้องน่ากลัวมากแน่ ๆ ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะดูเรื่องนี้ตอนกลางวันเพราะไม่อยากหลับไปพร้อมกับภาพติดตา แต่สิ่งที่ได้รับมันมากกว่าความน่ากลัวที่จินตนาการเอาไว้นี่สิ เพราะเนื้อหามีทั้ง จังหวะที่ทำให้ตกใจ ความน่ากลัวแบบหนังผีอารมณ์โกธิค และความตลกแบบหนังคอมเมดี้ มันเลยทำให้เนื้อเรื่องเป็นแนวผสมผสาน หลอน ๆ ขำ ๆ ซอฟต์กว่าที่คิดไปมาก ทั้ง ๆ ที่หลายฉากสามารถใช้คำว่าสยองได้เต็มที่แต่กลับไม่รู้สึกสยอง เป็นความรู้สึกของการดูงานศิลปะแบบผี ๆ ซะมากกว่า

จากการเล่นสี การจัดแสง การจัดฉาก ทำให้สิ่งที่เราควรจะร้องกรี๊ดทันทีที่ได้เห็น กลายเป็นจ้องดูว่า โอ้โหเขาทำฉากนี้สวยดีนะเนี่ย แต่งเอฟเฟกต์สวยจังแฮะ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นผีเละ ๆ หน้าหายไปครึ่งหรือเน่าเปื่อยที่ท่อนล่าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดอาการขวัญผวาใดใดเลย ออกจะตลกมากกว่ากลัวซะด้วยซ้ำในหลาย ๆ ฉากที่ออกมา โดยเฉพาะผีสาวใช้ปากแดง

มุกเก่า ๆ แต่ก็ยังใช้ได้อยู่ ตกใจแน่ ๆ กับมุกเก่า ๆ ที่ใส่เข้ามาในเรื่องก็คือ มุกผีโผล่ นึกจะมาก็มาแบบไม่คิดว่าจะมา ไอ้ตอนที่คิดว่าจะมาก็ไม่มีหลอกลวงกัน คือมาจริง ๆ แต่ยังทำให้เราตกใจได้อยู่ “นั่นไงว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้” เราเดาได้เลยว่าซีนที่จะทำให้เราใจหายใจคว่ำมันจะมาช่วงไหน ทั้ง ๆ ที่เตรียมใจไว้แล้วแต่การมาแบบถูกจังหวะก็ทำให้เป้าหมายประสบผลสำเร็จ ปิดตา ร้องว้ายจนได้ทั้ง ๆ ที่เตรียมตัวมาดี

มีอยู่ซีนนึงที่นั่งดูแล้วก็ลุ้นว่า อย่านะ ไม่นะ อย่าเป็นแบบนั้นนะ ใจก็คิดว่าซีรีส์ไม่น่าจะทำใหเราเดาได้เป๊ะขนาดนั้นหรอกมั้ง น่าจะหักมุมไปทางอื่นสิ แต่….ไม่มีหักไม่มีงอใดใดทั้งสิ้น เอามันตรง ๆ อย่างที่คนดูคิดนี่แหละ เหมือนกับจะบอกว่า “เออ แบบนี้แหละเอ็งคิดถูกแล้ว”

บทกระชับและมีดีที่บรรยากาศ ด้วยความที่เป็นซีรีส์ขนาดสั้น มี 6 ตอนเท่านั้นเองทำให้บทและการดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างฉบับกระเป๋า เท่าที่ดูนี่มันมีซีซัน 2 แน่ ๆ เพราะทิ้งปมให้ตามต่อได้อีก แต่ไม่มีอารมณ์ค้างคาใด ๆ เลยเพราะจะให้จบก็สามารถจบได้ใน 6 ตอนนี้แล้ว ไม่ได้เป็นซีรีส์ที่ขัดอกขัดใจหรือต้องตั้งตารอคอยซีซัน 2 มีต่อก็ดีจะรอดูแต่ถ้าไม่มีต่อก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ปมที่สร้างขึ้นมามันคลี่คลายอยู่ในตอน

ถามแล้วก็ตอบไม่ได้สร้างความสงสัยพัวพันจนแกะไม่ออก ซึ่งดูเผิน ๆ แล้วเหมือนว่าบทจะหลวม ๆ แต่ความเป็นจริงก็ถือว่ากระชับพอสมควร ออกไปทางกระชับแบบดูง่าย อาจจะมีงง ๆ ไปบ้างในช่วงแรก แต่ก็ทำให้เข้าใจได้ในฉากต่อ ๆ ไป สิ่งที่สร้างความประทับใจมากกว่าบทง่าย ๆ ที่ใส่เข้ามา คือความยากของการสร้างบรรยากาศผสมผสานนี่แหละ

คาดว่าแรงบันดาลใจของผู้สร้างน่าจะมาจากภาพยนตร์ดังหลาย ๆ เรื่อง เพราะบรรยากาศต่าง ๆ มันช่างคุ้นตาแต่แปลกตรงที่เราไม่รู้สึกว่าเป็นการลอกเลียนแบบ เพราะซีรีส์คลุมโทนให้เป็นแฟนตาซีย้อนยุคที่มีกลิ่นจีน-มาลายูอย่างชัดเจน ส่วนตัวชอบธีมของเรื่องค่ะ รู้สึกว่าเป็นซีรีส์ที่สวยสดงดงาม มีอารมณ์โกธิคชัดเจน

นักแสดงเหมาะสมและเข้าถึงบทบาท ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวกับ Huang Pei jia ที่รับบท ลี่หลัน กับบทบาทที่เธอได้รับถือว่าเหมาะสม ใครบอกว่าเธอไม่สวยนี่ขอเถียงแทน ไม่รู้สึกขัดหูขัดตาใดใดเลยกับบทบาทการเป็น ลี่หลัน สาวน้อยชาวจีนเชื้อสายมาลยูที่ทั้งผีและทูตสวรรค์ต่างหลงรัก เรื่องนี้เธอต้องเข้าบทกับพระเอกถึง 3 คน

แต่ที่ดูแล้วเคมีเข้ากันมากที่สุดก็ตอนเข้าบทกับ Kuang Tian ที่รับบทเป็นผีเทียนชิง Kuang Tian นี่ได้ข่าวว่าเล่นซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก (ไม่นับ 5 Lessons in Happiness : Baby Maybe ที่เป็นหนังสั้น) ถือว่าเป็นผีเอาแต่ใจที่กวนประสาทและน่าเขกกะโหลกเอามาก ๆ เพราะตายคนเดียวไม่ว่าแต่ทำทั้งคนและทูตสวรรค์เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน

Relate